Symphony Environmental Technologies Plc ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในเทคโนโลยีการเพิ่มคุณสมบัติขจัดจุลินทรีย์สำหรับพลาสติก และ ที่ไม่เป็นพลาสติก ได้ประกาศความสำเร็จ ผลการทดสอบประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ d2pAM ต่อต้านเชื้อไวรัส ที่ผสมอยู่ในถุงมือยางไนไตร์ล และ หน้าการอนามัย non-woven โพลีโพรพิลีน จากห้องปฏิบัติการทดลองไวรัสวิทยา มหาวิทยาลัย Campinas ประเทศบราซิล
ซึ่งถุงมือและหน้ากากที่ผสมด้วย d2pAM นี้ มีการทดสอบตามมาตรฐาน ISO 21702-2019 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล สำหรับการวัดประสิทธิภาพ การต่อต้านเชื้อไวรัสจำพวก โคโรน่าไวรัส strain MHV กลุ่มสายพันธุ์ Betacoronavirus (เป็นสายพันธุ์และครอบครัวเดียวกับ SARS-CoV-1, SARS-CoV-2/COVID19 และ MERS) บนพื้นผิวที่เป็นพลาสติก และ พื้นผิวที่ไม่เป็นรูพรุนอื่นๆ
ผลการทดลองได้ ข้อสรุปว่า
d2pAM มีศักยภาพ ในการกำจัดไวรัสกลุ่มโคโรนา และ จำกัดการปนเปื้อน ของ เชื้อโควิท-19 อย่างได้ผล
หมายเหตุ: ในการทดลอง มีการเปรียบเทียบชุดควบคุม ทั้งถุงมือและหน้ากากอนามัย โดยที่ไม่ผสมสารต้านจุลินทรีย์ใด ๆ และทดสอบภายใต้วิธีเดียวกัน
ผลการทดสอบพบ ถุงมือและหน้ากากอนามัย ทั่วไป ไม่มีประสิทธิภาพในการขจัดไวรัสได้เลย
Mr. Michael Laurier ซีอีโอ Symphony กล่าวว่า :
" ผลการทดสอบนี้สำคัญอย่างยิ่งสำหรับบริษัท ฯ ในการขยายให้ตลาดรับรู้ ความสำคัญในการประยุกต์เทคโนโลยีขจัดจุลินทรีย์ d2pAM โดยการผสมผสานเข้าไปในวัสดุ ที่ผู้คนต้องสัมผัสในชีวิตประจำวัน"
"เราเชื่อว่า นี่เป็นเป็นก้าวสำคัญในการต่อสู้กับสถานการณ์ โควิท-19
ถุงมือและหน้ากากอนามัยที่ประยุกต์ด้วย d2pAM จะเพิ่มการปกป้องให้ผู้คน โดยเฉพาะ เหล่าบุคลากรการแพทย์ พยาบาล ผู้ป่วย และผู้คน ที่ต้องเกี่ยวข้องในสถานพยาบาล ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อโรคต่าง ๆ ตลอดเวลา"
"สำหรับผลิตภัณฑ์หน้ากากอนามัย ที่ประยุกต์ด้วยเทคโนโลยี d2pAM
ทาง Symphony คาดหมายว่าจะมีการจัดจำหน่ายในตลาดทั่วไปได้ ตั้งแต่ไตรมาสที่2 ในปี2021 เป็นต้นไป"
การประกาศสำคัญครั้งนี้ นับเป็นความสำเร็จต่อจากที่บริษัท symphony ได้
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ d2pAM
Symphony ได้พัฒนากลุ่มสารเพิ่มประสิทธิภาพเข้มข้นในรูปแบบมาสเตอร์แบทช์ ซึ่งสามารถนำมาผสมผสานเข้าไปในวัสดุหลากหลายประเภท ทั้งแบบพลาสติกและไม่เป็นพลาสติก ภายใต้เครื่องหมายการค้า d2p®
สำหรับ d2pAM เป็นกลุ่มสารยับยั้งจุลินทรีย์ ที่เพิ่มคุณสมบัติให้วัสดุสามารถกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ที่ปนเปื้อนได้ในเวลาที่ควบคุมได้ ประโยชน์คือป้องกันและลดความเสี่ยงที่ผู้คนจะรับเชื้อโรคให้เหลือน้อยที่สุดในการการสัมผัสวัสดุต่างๆในชีวิตประจำวัน